ผู้เขียน หัวข้อ: จัดฟันบางนา: พ่อแม่ควรรู้! เมื่อไหร่ที่ควรพาลูกไปหาหมอฟันครั้งแรก  (อ่าน 141 ครั้ง)

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 520
  • ลงโฆษณาฟรี ประกาศขายสินค้าออนไลน์ ซื้อขายแลกเปลี่ยน
    • ดูรายละเอียด
พ่อแม่หลายคนอาจข้องใจ ว่าเมื่อไหร่กันนะที่ควรพาลูกไปพบหมอฟันครั้งแรก ต้องรอให้ฟันขึ้นครบทั้งปากก่อนไหม? หรือรอให้ลูกปวดฟันก่อนค่อยพาไปรักษาหรือเปล่า? … แต่ความจริงแล้ว การไปพบทันตแพทย์นั้นควรทำตั้งแต่ฟันน้ำนมเริ่มขึ้น โดยไม่ต้องรอให้ฟันผุก่อน เพื่อเป็นการปูพื้นฐานให้กับสุขภาพช่องปากที่ดีของลูกในอนาคตนั่นเอง ดังนั้นจะมาแนะนำคุณพ่อคุณแม่ว่าควรพาลูกไปพบหมอฟันครั้งแรกตอนไหน และการไปคลินิกเพื่อตรวจฟันหรือทำฟันเด็กต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง


เมื่อไหร่ที่ควรพาเด็กมาพบหมอฟันครั้งแรก

การมาพบหมอฟันครั้งแรก ควรเริ่มตั้งแต่ฟันน้ำนมซี่แรกของหนูๆ เริ่มขึ้น ซึ่งก็คือตอนอายุประมาณ 6 เดือน หรืออย่างช้าสุดก็ไม่ควรเกิน 1 ปี โดยไม่ต้องรอให้เด็กๆ มีฟันผุ เพื่อให้คุณหมอตรวจสุขภาพช่องปากและฟันและแนะนำวิธีป้องกันฟันผุที่ถูกต้อง เพราะแม้ว่าฟันน้ำนมจะอยู่เพียงชั่วคราวแล้วหลุดออก แต่การปล่อยปละละเลยจนฟันน้ำนมผุ จะทำให้เด็กๆ รู้สึกปวดฟัน เคี้ยวอาหารลำบาก รวมถึงอาจส่งผลให้เด็กพูดไม่ชัด เจริญเติบโตช้าเพราะกินได้น้อย เสียสมาธิ ถูกเพื่อนล้อ อีกทั้งการสูญเสียฟันน้ำนมเร็วเกินไปก็อาจทำให้ฟันแท้ที่ขึ้นมาใหม่ซ้อนเกหรือขึ้นผิดตำแหน่งได้ด้วย


วิธีการเตรียมตัวพาลูกไปพบหมอฟัน

การพาลูกน้อยไปหาหมอฟันครั้งแรกอาจเป็นเรื่องชวนกังวลของพ่อแม่หลายคน เพราะเด็กๆ ยังไม่คุ้นเคยกับสถานที่และเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ ของคุณหมอ จนอาจตื่นกลัวและงอแงได้ มาดูกันว่าในการพาลูกหลานไปคลินิกทันตกรรมครั้งแรก ผู้ปกครองควรเตรียมตัวยังไงบ้างด้วยเทคนิคเหล่านี้

    ให้บอกความจริงว่าจะพาไปหาหมอฟัน อย่าโกหกลูกว่าจะพาไปเที่ยว เพราะเด็กๆ จะคาดหวัง เมื่อรู้ความจริงก็มักจะต่อต้านและร้องงอแง รวมถึงอาจไม่ยอมเชื่อพ่อแม่อีก
    ไม่ควรปลูกฝังความกลัวเกี่ยวกับการหาหมอหรือการทำฟัน เช่น ถ้าดื้อจะจับฉีดยา หรือพามาให้คุณหมอถอนฟัน เพราะเด็กๆ จะฝังใจกลัวและมีทัศนคติที่ไม่ดีเกี่ยวกับการทำฟัน
    พ่อแม่อาจเล่านิทานหรือเรื่องแต่งที่เกี่ยวกับการมาหาหมอฟันให้เด็กๆ ฟัง เช่น หนูน้อยคนเก่งมาหาคุณหมอฟัน เพื่อให้เด็กๆ เห็นว่าการมาหาหมอฟันดีอย่างไร และเพื่อให้พวกเขาไม่รู้สึกกลัวด้วย
    พ่อแม่ควรเลือกคลินิกทันตกรรมเด็ก หรือคลินิกที่มีทันตแพทย์เด็กเฉพาะทาง เพราะหมอฟันเด็กจะสามารถรับมือกับคนไข้เด็กเล็กได้ดีกว่า รวมถึงสถานที่ ห้องทำฟัน และเครื่องมือต่างๆ ยังถูกออกแบบมาให้เหมาะกับเด็กมากกว่าด้วย
    ควรพาลูกไปคลินิกก่อนเวลานัดเล็กน้อย เพื่อให้เด็กๆ ได้ทำความคุ้นเคยกับสถานที่ หรือเล่นของเล่นระหว่างรอ เมื่อถึงเวลาพบคุณหมอเด็กๆ จะได้ผ่อนคลายยิ่งขึ้น
    เตรียมร่างกายลูกให้พร้อม เช่น ให้นอนอย่างเต็มอิ่ม และไม่ควรพามาในเวลานอนกลางวัน เพราะเด็กๆ อาจจะงอแงและไม่ให้ความร่วมมือกับคุณหมอ
    ให้เด็กงดอาหารและนมก่อนทำฟันอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการอาเจียนระหว่างทำฟัน


ทั้งนี้ ในระหว่างลูกน้อยทำฟัน คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความร่วมมือกับคุณหมออย่างเต็มที่ เช่น ถ้าเจ้าหน้าที่ขอให้ผู้ปกครองรอข้างนอกห้องทำฟัน ก็ควรปฏิบัติตามนั้น เพื่อให้คุณหมอสามารถตรวจรักษาได้อย่างราบรื่น และเด็กก็มักจะให้ความร่วมมือกับคุณหมอมากขึ้นด้วย


สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรคาดหวัง ระหว่างนัดครั้งแรกกับหมอฟันของลูกน้อย

ในกรณีที่ลูกน้อยเพิ่งเริ่มมีฟันขึ้นและยังไม่มีฟันผุ คุณหมอจะเริ่มจากการพูดคุยแนะนำขั้นตอนการตรวจฟันคร่าวๆ และเริ่มตรวจฟันด้วยเครื่องมือง่ายๆ ก่อน โดยไม่ให้เด็กๆ รู้สึกเจ็บ เพื่อให้เด็กเกิดความคุ้นเคยกับวิธีการตรวจฟันและมีทัศนคติที่ดีเกี่ยวกับการดูแลฟันในอนาคต จากนั้นคุณหมออาจทำการเคลือบฟลูออไรด์ให้ และนัดหมายให้มาพบในครั้งต่อไป

นอกจากนี้ คุณหมอก็จะให้คำแนะนำผู้ปกครองในการดูแลช่องปากแก่ลูกน้อยอย่างถูกต้อง เช่น เทคนิคการแปรงฟันที่เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัย การใช้ไหมขัดฟันอย่างถูกวิธี การเลือกยาสีฟันผสมฟลูออไรด์และวิธีใช้อย่างถูกต้อง ปัญหาฟันที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตและวิธีป้องกัน รวมถึงฟันซี่ไหนที่เสี่ยงต่อการผุ คุณหมอก็จะแนะนำให้เคลือบหลุมร่องฟัน และอาจนัดหมายมารักษาในครั้งถัดไปด้วย



จัดฟันบางนา:  พ่อแม่ควรรู้! เมื่อไหร่ที่ควรพาลูกไปหาหมอฟันครั้งแรก อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/category/จัดฟันบางนา/