ผู้เขียน หัวข้อ: จัดฟันบางนา: การดูแลช่องปากของทารก  (อ่าน 75 ครั้ง)

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 520
  • ลงโฆษณาฟรี ประกาศขายสินค้าออนไลน์ ซื้อขายแลกเปลี่ยน
    • ดูรายละเอียด
จัดฟันบางนา: การดูแลช่องปากของทารก
« เมื่อ: วันที่ 28 กันยายน 2024, 12:04:50 น. »
จัดฟันบางนา: การดูแลช่องปากของทารก

สุขภาพช่องปากและฟันของเด็ก ในวัยเด็กแรกเกิด ช่วงแรกเกิดที่เด็กยังฟันไม่ขึ้น คุณแม่สามารถทำความสะอาดได้โดยใช้ผ้าสะอาดนุ่ม ๆ เช็ดทำความสะอาดเหงือกลูกเบา ๆ หลังการดูดนม โดยเช็ดบริเวณกระพุ้งแก้มและลิ้นด้วย และต้องมั่นใจว่าผ้าที่จะนำมาเช็ดจะต้องสะอาดเพียงพอจะใช้กับช่องปากของเด็กได้ ไม่อย่างงั้นอาจจะเกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมาได้ เนื่องจากในวัยเด็กแรกเกิด จำเป็นที่จะต้องดูแลรักษาเรื่องของความสะอาดในทุก ๆ เรื่องเพราะจะทำให้เกิดอาการแพ้ได้ เนื่องจากเด็กยังบอบบางต่อสิ่งต่าง ๆ มักจะเกิดอาการแพ้ได้ง่าย แต่อย่างที่ทราบว่า ในวัยเด็กแรกเกิด


นอกจากจะต้องคำนึงถึงเรื่องความสะอาดเป็นหลักแล้ว ในเรื่องของช่องปากของเด็กทารกก็สำคัญไม่แพ้กัน ในวัยแรกเกิดถึง 6 เดือน กรณีจำเป็นคุณแม่ต้องให้นมผสม ควรให้นมผสมดัดแปลงสำหรับทารกซึ่งไม่เติมน้ำตาล ไม่ควรเอาของหวานทุกชนิดใส่ขวดนม และไม่ควรให้เด็กดูดขวดนมจนหลับคาขวดนม เพราะในวัยเด็กอาจจะเกิดปัญหาในเรื่องของฟันผุได้ เนื่องจากขวดนมหรือที่เรียกว่า ฟันผุในเด็ก เป็นหนึ่งในปัญหาที่สำคัญที่สุดเกี่ยวกับการดูแลช่องปากของทารก สาเหตุเกิดจากฟันสัมผัสกับของเหลวที่มีส่วนผสมของน้ำตาลบ่อย ๆ หรือเป็นเวลานาน ซึ่งจะทำให้ฟันและสุขภาพปากโดยรวมของลูกน้อยเสียหายอย่างรุนแรงได้


สำหรับวันนี้คลินิกเรามาแนะนำวิธีการดูแลรักษาสุขภาพช่องปากของเด็กทารกว่า คุณแม่ควรจะรับมืออย่างไร เพื่อให้ลูกน้อยได้มีสุขภาพช่องปากที่สะอาด การดูแลปากและฟันที่ดีเริ่มตั้งแต่ช่วงแรกหรือในวัยทารก แม้กระทั่งก่อนที่ฟันซี่แรกของเด็กจะขึ้น ซึ่งมีปัจจัยหลายประการที่มีผลต่อรูปลักษณ์และสุขภาพในอนาคตของเด็ก ฟันของทารกจะขึ้นในช่วงอายุ 6 เดือน การดูแลปากและฟันโดยการแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันจึงยังไม่จำเป็น อย่างไรก็ตาม ทารกก็มีความต้องการในการดูแลปากและฟันเป็นพิเศษที่คุณแม่มือใหม่จำเป็นควรทราบ ซึ่งรวมถึงการป้องกันฟันผุจากขวดนม และการให้ฟลูออไรด์แก่ทารกในปริมาณที่เหมาะสมด้วย นอกจากนี้คุณแม่หลายคนอาจจะให้ลูกใช้ จุกนมหลอก เพราะการดูดเป็นหนึ่งในพัฒนาการตามปกติของทารกและจะทำให้พวกเขารู้สึกสบายในช่วง 1 ปีแรก แม้ว่าเด็กจะไม่จำเป็นต้องได้รับสารอาหารจากนมแม่หรือนมขวดแล้วก็ตาม


แต่พวกเขาก็ยังชอบดูดนมอยู่ในช่วงสองสามปีแรก สำหรับการดูแลสุขภาพช่องปากของเด็ก ในเด็กแรกเกิด ช่วงแรกเกิดที่ลูกยังฟันไม่ขึ้น คุณแม่สามารถทำความสะอาดได้โดยใช้ผ้าสะอาดนุ่ม ๆ เช็ดทำความสะอาดเหงือกลูกเบา ๆ หลังดูดนม โดยเช็ดบริเวณกระพุ้งแก้มและลิ้นด้วย ต่อมาในวัย 6 เดือน ก่อนฟันน้ำนมจะเริ่มขึ้นควรพาลูกไปพบทันตแพทย์เพื่อให้ฟลูออไรด์ป้องกันฟันผุ หรือเมื่อฟันน้ำนมขึ้นแล้วควรใช้นิ้วพันผ้าถูทำความสะอาดที่บริเวณฟันของลูกให้สะอาดเช่นเดียวกับการทำความสะอาดเหงือก และเด็กในช่วง 1-3 ปี ช่วงนี้ฟันลูกมีขนาดใหญ่ขึ้น และเริ่มใช้แปรงสีฟันสำหรับเด็กได้เอง ควรเริ่มสอนลูกแปรงฟัน โดยลองแปรงฟันให้ลูกก่อน และฝึกให้ลูกรู้จักการบ้วนน้ำก่อนที่จะให้ลูกแปรงฟันด้วยตัวเอง ถือว่าเป็นการปลูกฝังให้เด็กรู้จักทำความสะอาดช่องปากและฟัน และเห็นความสำคัญของการรักษาความสะอาดของช่องปาก


อย่างไรก็ตาม นอกจากเรื่องของการสอนให้รู้จักรักษาความสะอาดของสุขภาพช่องปากและฟันแล้ว การเลือกรับประทานอาหาร หรือขนมที่ไม่มีน้ำตาล หรือไม่หวานให้ลูกก็ถือว่าสำคัญ เพราะเป็นการส่งเสริมและป้องกันการเกิดฟันผุในเด็ก และทีสำคัญที่สุดควรพาลูกไปพบทันตแพทย์ตั้งแต่เด็ก ๆ และอย่าขู่เด็กให้กลัวการตรวจฟัน เพราะจะทำให้เด็กฝังใจจนไม่อยากไปพบทันตแพทย์ในครั้งต่อไป และทำให้เกิดการกลัวที่จะเข้ารับการรักษา รวมทั้งเลือกยาสีฟันสำหรับเด็กที่ไม่มีฟลูออไรด์ เพราะถึงแม้ลูกจะบ้วนปากได้ แต่เวลาแปรงฟันอาจจะเผลอกลืนยาสีฟันลงไป


ซึ่งการกลืนฟลูออไรด์ลงไปในเด็กเล็กอาจทำให้ฟันตกกระ หรือเป็นรอยด่าง ทำให้เกิดปัญหาตามมาได้ ทั้งนี้หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใด สนใจให้บุตรหลานของท่านเข้ารับการตรวจสุขภาพช่องปากและฟัน รวมไปถึงเข้ารับการรักษาทางด้านทันตกรรมอื่น ๆ สามารถขอรับคำแนะนำจากทางคลินิกได้ ทางเรายินดีให้คำปรึกษาและช่วยส่งเสริมสุขภาพช่องปากและฟันของลูกน้อยให้เติบโตไปมีคุณภาพชีวิตที่ดีและสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข และมั่นใจได้