หลายคนพยายามลดน้ำหนักแต่ไม่ประสบผลสำเร็จ อาจเป็นเพราะมีบางอย่างที่มองข้ามไป ถึงแม้ว่าจะพยายามควบคุมอาหาร ลดแคลอรีและออกกำลังกายทุกวัน แต่เคยถามตัวเองหรือไม่ว่าในแต่ละคืน คุณนอนหลับเพียงพอไหม เช่น คุณนอนคืนละ 7 ชั่วโมงหรือไม่? การวิจัยกล่าวว่าการนอนน้อยกว่า 5 ชั่วโมงแม้เพียงคืนเดียวก็จะเพิ่มโอกาสในการที่น้ำหนักจะเพิ่มขึ้นได้ โดยเฉพาะไขมันหน้าท้อง!
แม้ว่าการรับประทานอาหารที่มีแคลอรีน้อยและการออกกำลังกายเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่การลดน้ำหนัก แต่การอดนอนก็สามารถทำให้ระบบเผาผลาญพลังงานเสียสมดุลได้ และกลายเป็นเรื่องยากมากขึ้นที่จะลดน้ำหนักส่วนเกิน ทั้งๆ ที่ควบคุมอาหารและออกกำลังกายเป็นประจำ ดังนั้นจึงควรให้ความสำคัญกับการนอนให้มากขึ้น เพราะการอดนอนมีความเชื่อมโยงอย่างมากกับการลดน้ำหนักไม่ลง
ทำไมการนอนหลับให้สนิทจึงสำคัญต่อการลดน้ำหนัก
เมลาโทนินเป็นฮอร์โมนแห่งการนอนหลับที่ช่วยให้หลับสบายตลอดคืน ระดับเมลาโทนินที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มการเผาผลาญแคลอรี่ เร่งการเผาผลาญไขมัน และป้องกันการดื้อต่ออินซูลิน โดยสมองของเราจะเริ่มผลิตเมลาโทนินหลังจากพระอาทิตย์ตก อย่างไรก็ตาม การได้รับแสงสีฟ้าผ่านอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ ทีวี คอมพิวเตอร์ ฯลฯ สามารถรบกวนวงจรการหลับ-ตื่น และทำให้การหลั่งเมลาโทนินหยุดชะงัก ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพการนอนหลับอย่างมาก การหยุดชะงักของเมลาโทนินสามารถก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพมากมาย ตั้งแต่ภาวะดื้อต่ออินซูลินไปจนถึงภาวะซึมเศร้า และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมการนอนอย่างน้อย 7 ชั่วโมงทุกคืนจึงมีความสำคัญ เพราะสามารถช่วยลดความเครียดไปจนถึงการลดน้ำหนักได้
แม้แต่การควบคุมอาหารและการออกกำลังกายก็ไม่สามารถช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้หากคุณไม่ได้นอนหลับอย่างต่อเนื่อง 7 - 8 ชั่วโมง การอดนอนส่งผลต่อฮอร์โมนสำคัญที่จำเป็นต่อการลดน้ำหนัก จำนวนชั่วโมงการนอนที่ต่ำจะลดฮอร์โมนเลปตินหรือฮอร์โมนความอิ่ม และจะเพิ่มเกรลินหรือฮอร์โมนความหิวให้มากขึ้น รวมถึงยังเร่งการหลั่งคอร์ติซอลหรือฮอร์โมนความเครียดอีกด้วย หากนอนหลับไม่เพียงพอ ฮอร์โมนเหล่านี้จะทำงานผิดปกติ คุณจะตื่นขึ้นพร้อมกับระบบเผาผลาญที่ช้าลงและมีความหิวเพิ่มขึ้น ส่งผลทำให้คุณรู้สึกโหยหาอาหารที่มีน้ำตาลและอาหารแคลอรีสูง เพราะสมองของคุณกำลังมองหาพลังงานทันทีเพื่อทดแทนส่วนที่ขาดไป
5 เหตุผลที่การนอนหลับสามารถช่วยลดน้ำหนักได้
1. เพิ่มฮอร์โมนเกรลินและลดฮอร์โมนเลปติน
เวลาที่คุณนอนน้อยหรืออดนอน จะส่งผลให้ระดับฮอร์โมนเกรลินหรือฮอร์โมนหิวเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเพิ่มความหิวและความอยากอาหารของคุณในวันถัดไป ในขณะเดียวกันฮอร์โมนความอิ่มหรือเลปตินก็จะลดลง ไม่เพียงแต่คุณจะตื่นขึ้นมาด้วยความหิวโหย การอดนอนยังทำให้คุณอยากกินอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตและของหวานเพิ่มมากขึ้นด้วย
2. เกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน
อินซูลินเป็นฮอร์โมนที่คอยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด รวมถึงยังมีบทบาทในการกำกับให้แคลอรีถูกเก็บในรูปของไกลโคเจนและไขมันในกล้ามเนื้อรวมถึงในเนื้อเยื่อ เมื่อกลูโคสในกระแสเลือดมีปริมาณสูง เซลล์ของร่างกายจะตอบสนองต่ออินซูลินน้อยลง เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น กลูโคสส่วนเกินทั้งหมดจะถูกเก็บสะสมไว้เป็นไขมันในร่างกาย และทำให้เรามีไขมันสะสมเพิ่มขึ้น การนอนไม่พอติดต่อกันเป็นประจำจะเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะดื้อต่ออินซูลินและทำให้อัตราการเผาผลาญแคลอรีลดลง
3. เพิ่มฮอร์โมนความเครียดคอร์ติซอล
การอดนอนยังเพิ่มระดับของฮอร์โมนความเครียด "คอร์ติซอล" ซึ่งฮอร์โมนชนิดนี้จะทำให้น้ำหนักของคุณเพิ่มขึ้นได้ง่าย และยังเป็นตัวกระตุ้นให้ร่างกายสะสมไขมันไว้ที่หน้าท้อง ต้นแขนและต้นขาเพิ่มขึ้นได้ด้วย นอกจากนี้การอดนอนยังทำให้การทำงานของสมองกลีบหน้าซึ่งรับผิดชอบในการตัดสินใจและการควบคุมแรงกระตุ้นลดลง ซึ่งหมายความว่า แม้ว่าคุณจะรู้ว่าอาหารตรงหน้านั้นมีแคลอรีสูงและไม่ดีต่อการลดน้ำหนัก แต่คุณก็ยังจะรับประทานมันต่อไป
4. การเผาผลาญไขมันลดลง
การนอนไม่เพียงพออาจทำให้ปฏิกิริยาออกซิเดชั่นของไขมันและการเผาผลาญไขมันลดลง หมายความว่าโอกาสที่ไขมันจะถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานก็น้อยลง และร่างกายก็จะละลายไขมันส่วนเกินเหล่านี้ได้ยากมากขึ้น การสร้างกล้ามเนื้อก็ลดลง เพราะการอดนอนจะลดการสังเคราะห์โปรตีนของกล้ามเนื้อได้สูงถึง 18% และเป็นเหตุผลว่าทำไมการนอนไม่เพียงพอจึงทำให้เราอ้วนขึ้นได้
5. เพิ่มโอกาสในการกินของว่างตอนกลางคืน
เนื่องจากคุณตื่นอยู่ตลอดคืน ทำให้ความอยากกินของว่างตอนกลางคืน อาหารขยะ และของที่มีแคลอรีสูง รวมถึงขนมหวานต่าง ๆ มีเพิ่มมากขึ้น และทำให้ร่างกายเสี่ยงที่จะต้องไขมันที่ไม่ดีต่อสุขภาพเพิ่มขึ้นด้วย มีน้อยรายที่สามารถอยู่ได้ทั้งคืนโดยไม่รับประทานอะไร ดังนั้นเพื่อเป็นการลดโอกาสในการกินมื้อดึก คุณจึงควรรีบเข้านอนให้ได้ตามเวลา
เหตุผลที่การนอนหลับ สามารถช่วยลดน้ำหนักได้ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.healthyhitech.net/
%20TPCC2.jpg)
.png){kind=logo}
